ภาพตรึงใจที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลก ถึงความรักความผูกพันที่ชาวยูเครนมีต่อสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ในการเดินทางไกลที่แสนทุลักทุเลเพื่อหนีภัยสงครามจากผู้รุกรานที่ใหญ่โตกว่าหลายเท่า ไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางฝั่งตะวันตก

พวกเขาเดินทางไปพร้อมครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา และเพื่อนสี่ขาตัวน้อย ผู้ชายที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปี ถูกห้ามออกนอกประเทศ เพราะต้องอยู่เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด

นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ชาวยูเครนต่างพาครอบครัวและสัตว์เลี้ยงหลบเข้าชั้นใต้ดิน หรือใช้สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อเป็นที่หลบภัย ภาพของพวกเขาและสัตว์เลี้ยงแสนรักขณะใช้ชีวิตร่วมกันในที่หลบภัย เผยแพร่ไปตามโซเชียลมีเดียและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงออกถึงความรักอันงดงามของมนุษย์ต่อสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์ในท่ามกลางภาวะสงคราม

เมื่อการโจมตีทางอากาศจากรัสเซียรุนแรงและไม่จำกัดวง ทำให้บ้านเรือนที่พักอาศัยของประชาชนกลายเป็นเป้าของการถล่ม สถานศึกษา โรงพยาบาล โบสถ์วิหาร ก็ถูกระเบิดทำลายจนพินาศย่อยยับ คลื่นอพยพของชาวยูเครนไปทางตะวันตกจึงมีขนาดใหญ่โตและรวดเร็ว

เพียง 1 สัปดาห์ของการรุกราน มีชาวยูเครนลี้ภัยสงครามออกนอกประเทศมากกว่า 1 ล้านคน และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านคนเมื่อล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง

ในการอพยพครั้งใหญ่ ชาวยูเครนหอบหิ้วสัตว์เลี้ยงของตัวเองร่วมเดินทางไปด้วยกันในที่ที่ไม่ยังรู้อนาคต สุนัขและแมวอยู่ในตะกร้า หรือกระเป๋าล้อลาก ขบวนคลื่นมนุษย์เคลื่อนย้ายฝ่าอากาศหนาวเหน็บเป็นนานหลายชั่วโมงไปยังสถานที่ปลอดภัย มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเดินเท้าฝ่าอุณหภูมิติดลบ ไม่มีทั้งอาหารและน้ำดื่ม เป็นระยะทางไกลกว่า 70 กม.เพื่อไปให้ถึงพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้ มีชาวยูเครนจำนวนมากปฏิเสธการอพยพ หากไม่สามารถพาสัตว์เลี้ยงของพวกเขาร่วมเดินทางไปด้วยกันได้

ที่พรมแดนประเทศโปแลนด์ โรมาเนีย และฮังการี ต่างเปิดรับผู้ลี้ภัยจากยูเครน และยอมผ่อนปรนข้อบังคับต่างๆ ที่ควบคุมการนำเข้าสัตว์ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของชาวยูเครนสามารถผ่านแดนเข้ามาได้ โดยยกเว้นทั้งใบรับรองการฉีดวัคซีน การฝังไมโครชิพ และผลตรวจเชื้อพิษสุนัขบ้า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> คาเฟ่แมว – บ้านแมว พื้นที่กระชับมิตรของทาสแมวขาจร